สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (19 ธ.ค.) ว่า สหราชอาณาจักร (UK) ขาดดุลงบประมาณสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยยอดการกู้ยืมสุทธิของภาครัฐในเดือนพ.ย. อยู่ที่ 1.17 หมื่นล้านปอนด์ (ประมาณ 1.564 หมื่นล้านดอลลาร์) แม้จะเป็นระดับต่ำสุดสำหรับเดือนพ.ย. นับตั้งแต่ปี 2564 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ว่ายอดกู้ยืมสุทธิของภาครัฐจะอยู่ที่ 1.0 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสถานะการเงินภาครัฐยังคงเผชิญกับภาวะตึงตัวอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลชุดล่าสุดนี้ช่วยยืนยันความสมเหตุสมผลในการตัดสินใจของเรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้ประกาศแผนงบประมาณปรับขึ้นภาษีเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อสร้างเงินสำรองขนาดใหญ่สำหรับรักษาวินัยทางการคลัง โดยในช่วงปีงบประมาณ 2568/69 พบว่าตัวเลขการขาดดุลจริงมักพุ่งสูงเกินความคาดหมายของเหล่านักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นถึง 6 ครั้งจากการประมาณการเบื้องต้นในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับการกู้ยืมในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน มียอดรวมอยู่ที่ 1.322 แสนล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านปอนด์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2567/68 นอกจากนี้ ONS ยังได้ปรับแก้ตัวเลขการกู้ยืมเฉพาะเดือนต.ค. ขึ้นสู่ระดับ 2.12 หมื่นล้านปอนด์ จากเดิมที่ประมาณการเบื้องต้นไว้ที่ 1.74 หมื่นล้านปอนด์
ส่วนการปรับเพิ่มยอดกู้ยืมรวม 3.9 พันล้านปอนด์ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568/69 นั้น เป็นผลมาจากรายได้ภาษีนิติบุคคลที่ลดลงและการจ่ายเงินอุดหนุนค่าเชื้อเพลิงฤดูหนาวเพิ่มเติม แม้จะมีการชดเชยบางส่วนจากการที่หน่วยงานท้องถิ่นมียอดใช้จ่ายต่ำกว่าที่รายงานไว้ก่อนหน้าก็ตาม