สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ (19 ธ.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค. เนื่องจากแคมเปญลดราคา Black Friday ในปีนี้ไม่สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้มากเท่ากับปีก่อน ๆ สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 0.4%
ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่ตอกย้ำถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในวงกว้าง ก่อนที่เรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะแถลงงบประมาณประจำปีเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ONS ยังได้ปรับปรุงตัวเลขยอดขายของเดือนต.ค. เป็นลดลง 0.9% จากเดิมที่รายงานว่าลดลง 1.1% ขณะที่ภาพรวมในช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนพ.ย. ยอดขายขยายตัวเพียง 0.6% ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนส.ค.
ยอดขายในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เช่นเดียวกับความต้องการสินค้ากลุ่มอัญมณีและทองคำที่ซบเซาลงหลังจากราคาสินค้าโลหะมีค่าเริ่มทรงตัว
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นการจัดเก็บในช่วงวันที่ 2-29 พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนและหลังการประกาศงบประมาณของรัฐบาลในวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์มองว่า การลดลงของยอดค้าปลีกติดต่อกันเป็นเดือนที่สองถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างมากสำหรับผู้ค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าตัวเลขเหล่านี้รวมช่วง Black Friday และการช้อปปิ้งช่วงต้นคริสต์มาสไว้ด้วย โดยผลสำรวจครัวเรือนพบว่าจำนวนผู้บริโภคที่วางแผนจะลดการใช้จ่ายในช่วง Black Friday ปีนี้มีมากกว่าผู้ที่ตั้งใจจะซื้อเพิ่มถึงเกือบสองเท่า ซึ่งการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ซบเซาจะเป็นปัจจัยกดดันให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของ UK ชะลอตัวลง