นายซูร์ยามิน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยในงานแถลงข่าว ณ ศูนย์อำนวยการของสำนักงานฯว่า มูลค่าการส่งออกของอินโดนีเซียเดือนก.ค.ลดลง 6.01% สู่ระดับ 1.511 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสูงขึ้น 6.5% สู่ระดับ 1.742 หมื่นล้านดอลลาร์
นายซูร์ยามินเปิดเผยว่า ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในระดับสูงทั้งก่อนหลังเทศกาลเฉลิมฉลองทางศาสนาอิสลามในเดือนก.ค.และส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวมุสลิมกว่า 20 ล้านคนเดินทางกลับบ้านเพื่อร่วมงานเฉลิมฉลองดังกล่าว ถือปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งที่ส่งผลให้ขาดดุล แม้ว่ารัฐบาลได้ขึ้นราคาน้ำมันที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลก็ตาม
ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียปรับขึ้นราคาน้ำมันที่รัฐอุดหนุนสู่ระดับ 44% เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดการนำเข้าน้ำมันดังกล่าว โดยอินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันสุทธิ และให้เงินอุดหนุนน้ำมันจำนวนมาก
ความต้องการที่สูงขึ้นของน้ำมันที่รัฐอุดหนุนทำให้มีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น ขาดดุลการค้ามาขึ้น รูเปียห์อ่อนค่าลง ตลอดจนทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลง และอัตราเงินเฟ้อนำเข้าขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการส่งออก รัฐบาลจึงเร่งผลักดันเดินการส่งออกสินแร่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน