ตัวเลขที่เหนือระดับ 0 บ่งชี้ถึงการขยายตัว โดยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ดัชนีปรับตัวติดลบ หมายความว่ากิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ซึ่งครอบคลุมถึงตอนเหนือของนิวเจอร์ซีย์และตอนใต้ของคอนเนตทิคัต หดตัวลง โดยดัชนีเดือนพ.ย.ผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.00-5.55
ดัชนีย่อยปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ร่วงลงสู่ระดับ 5.53 จาก 7.75 ในเดือนต.ค. ดัชนีการขนส่งสินค้าร่วงลงแตะ -0.53 จากระดับ 13.12 ในเดือนต.ค. ดัชนีการจ้างงานลดลงสู่ระดับ 0.0 จาก 3.61 ในเดือนต.ค.
ดัชนีราคาจ่ายขยับลงแตะ 17.11 จาก 21.69 ขณะที่ราคารับร่วงลงต่อเนื่องแตะ -3.95 หลังจากที่ดิ่งลงแตะ 2.41 ในเดือนต.ค. จาก 8.60 ในเดือนก.ย. นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ราคารับติดลบ
อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า แม้ดัชนีย่อยที่บ่งชี้ถึงกิจกรรมการผลิตในปัจจุบันปรับตัวติดลบหลายตัว แต่ดัชนีสำหรับแนวโน้มทางธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้ายังสะท้อนให้เห็นว่าถึงมุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกเกี่ยวกับสภาพธุรกิจในอนาคต
ดัชนีสำหรับแนวโน้มทางธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าขยับลงสู่ระดับ 37.51 จาก 40.76 ในเดือนที่แล้ว ขณะที่ดัชนีการคาดการณ์ของลูกจ้างพุ่งขึ้นสู่ระดับ 22.37 จาก 7.23
ทั้งนี้ ภาคการผลิตคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% ของเศรษฐกิจสหรัฐ และประมาณ 6% ของนิวยอร์ก
นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนจับตารายงานผลสำรวจภาคการผลิตของเฟด โดยเฉพาะในเขตนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันที่ 21 พ.ย.นี้ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่อาจบ่งชี้ถึงดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)