รายงาน "World Economic Situation and Prospects 2013 - WESP" ของ UN รายงานว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในช่วง 2 ปีข้างหน้า หลังมีสัญญาณที่บ่งบอกถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3% ในปี 2557 และ 3.3% ในปี 2558 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ 2.1% ในปี 2556
สำหรับสหรัฐอเมริกา การดำเนินมาตรการเข้มงวดทางการคลังและประเด็นทางการเมืองต่อปัญหางบประมาณนั้น ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อการขยายตัว อย่างไรก็ตาม มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นั้นได้หนุนให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น รายงานชี้ว่า ตลาดแรงงานและภาคการเคหะของสหรัฐนั้นมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะขยายตัว 2.5% ในปี 2557
เศรษฐกิจของประเทศแถบยุโรปตะวันตกได้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยในปี 2556 แต่คาดว่าจะขยายตัวอย่างอ่อนแรง เนื่องจากมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลังจะยังคงดำเนินต่อไป อีกทั้งอัตราว่างงานยังคงสูงขึ้น และคาดว่า GDP ของยุโรปตะวันออกจะขยายตัว 1.5% ในปี 2557
ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากนโยบายการคลังแบบขยายตัวต่างๆ แต่ผลกระทบจากแผนปรับโครงสร้างที่กำลังจะมาถึงนั้นยังคงไม่แน่นอน นอกจากนี้ แนวโน้มการปรับเพิ่มภาษีโภคภัณฑ์ของญี่ปุ่นนั้นคาดว่าจะสกัดการขยายตัว โดยคาดว่า GDP ญี่ปุ่นขยายตัว 1.5% ในปี 2557
การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเริ่มเกิดเสถียรภาพ และคาดว่าจะคงอัตราการขยายตัวราว 7.5% ในอีกไม่กี่ข้างหน้า ส่วนอินเดียนั้นได้เผชิญกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในรอบสองทศวรรษ ประกอบกับปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดครั้งใหญ่ และการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น แต่คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวเหนือ 5% ในปี 2557 สำนักข่าวซินหัวรายงาน