ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 12.9% หลังส่งออกขยายตัวทำสถิติ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 7, 2014 21:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 12.9% สู่ระดับ 3.425 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.933 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวขึ้นทำสถิติสูงสุด

ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552 หรือในรอบ 4 ปี ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.

ยอดส่งออกของสหรัฐขยายตัว 0.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1.9486 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสาเหตุหลักมาจากอุปสงค์เครื่องบินพลเรือนและน้ำมันเชื้อเพลิงที่แข็งแกร่ง ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 1.4% แตะ 2.2911 แสนล้านดอลลาร์ นำโดยยอดสั่งซื้อน้ำมันดิบที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี

ยอดขาดดุลที่ลดลงอย่างมากในเดือนพ.ย.อาจหมายความว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 อาจขยายตัวเร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ โดยยอดขาดดุลที่ลดลงหมายความว่า สหรัฐขายสินค้าไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น และซื้อสินค้าจากต่างประเทศน้อยลง

รายงานระบุว่า ยอดขาดดุลของสหรัฐกับจีน ลดลง 6.7% แตะ 2.693 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 0.9% สู่ระดับ 1.318 หมื่นล้านดอลลาร์ และยอดนำเข้าร่วงลง 4.3% แตะ 4.011 หมื่นล้านดอลลาร์

ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับญี่ปุ่น ร่วงลง 8.4% แตะ 584 พันล้านดอลลาร์ โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 5.5% สู่ระดับ 5.79 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 2.0% แตะ 1.163 หมื่นล้านดอลลาร์

ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับสหภาพยุโรป (อียู) หดตัวลงถึง 29.4% เหลือ 1.007 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ตัวเลขขาดดุลแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.427 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้านั้น

ทั้งนี้ ราคานำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยลดลงอย่างมากแตะ 94.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ในเดือนพ.ย. จาก 99.96 ดอลลาร์ในเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ