ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตสหรัฐขยายตัวขึ้น ขณะที่ดัชนีเบื้องต้นเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 57.5
รายงานจากมาร์กิตระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนมิ.ย. ได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายตัวเร็วขึ้นของดัชนีย่อยด้านผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ โดยดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นแตะ 61 จาก 59.6 ขณะที่ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 61.2 จาก 58.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งทั้งสองดัชนีต่างแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553 หรือในรอบกว่าสี่ปี
โดยก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐนั้น ในวันเดียวกันนี้ สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 51 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เทียบกับระดับ 50.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งแกร่งในช่วงสิ้นไตรมาส 2 และส่งสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังมีเสถียรภาพมากขึ้น
ข้อมูลของทางการจีนสอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิตของเอชเอสบีซี ซึ่งดีดตัวขึ้นแตะ 50.7 ในเดือนมิ.ย. จาก 49.4 ในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกันในวันนี้ มาร์กิตยังได้เปิดเผยผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงแตะ 51.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จาก 52.2 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าการประเมินเบื้องต้นที่ 51.9
ทั้งนี้ นอกจากดัชนี PMI สหรัฐที่จัดทำโดยมาร์กิตแล้ว ตลาดยังจับตาข้อมูลภาคการผลิตโดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ด้วยเช่นกัน