รายงานของกระทรวงระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตสร้างบ้านของสหรัฐร่วงลงอย่างผิดคาดในเดือนมิ.ย.นั้น มาจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาบ้านยังทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากประสบความยากลำบากในการซื้อบ้าน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงภาวะซบเซาของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดการเงินยังคงมีความคาดหวังว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มฟื้นโต โดยเมื่อวานนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐเพิ่มขึ้น 4 จุด แตะ 53 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนก.ค.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 50 โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 นั้น บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดมากกว่าในเชิงลบ
นอกจากนี้ ผลสำรวจของ NAHB ยังชี้ให้เห็นว่า ผู้สร้างบ้านมีมุมมองเชิงบวกมากเป็นพิเศษต่อยอดขายบ้านในอนาคต โดยดัชนีแนวโน้มยอดขายบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 6 จุด สู่ระดับ 64 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
ส่วนข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์หน้านั้น รวมถึงดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ซึ่งข้อมูลทั้ง 2 รายการนี้จะมีการเปิดเผยในวันอังคารที่ 22 ก.ค.นี้