ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตสหรัฐยังคงขยายตัวในเดือนก.ค. แม้ว่าเป็นอัตราที่ชะลอตัวจากเดือนมิ.ย.ที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2553 หรือในรอบเกือบสองปีก็ตาม
รายงานจากมาร์กิตระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวชะลอลงในเดือนก.ค.นั้น มีสาเหตุมาจากผลผลิต คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานที่ต่างก็ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าภาคธุรกิจอาจมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้น
โดยก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐนั้น ในวันเดียวกันนี้ สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 51
ข้อมูลของทางการจีนสอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิตของเอชเอสบีซี ซึ่งขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 50.7
ขณะเดียวกันในวันนี้ มาร์กิตยังได้เปิดเผยผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนแตะที่ 51.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยดัชนีเดือนก.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. แต่ขยับลงเล็กน้อยจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 51.9
ทั้งนี้ นอกจากดัชนี PMI สหรัฐที่จัดทำโดยมาร์กิตแล้ว ตลาดยังจับตาข้อมูลภาคการผลิตโดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ด้วยเช่นกัน