รายงานของกระทรวงระบุว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดในวงกว้างนับตั้งแต่การซื้อสมาร์ทโฟนไปจนถึงการไปพบแพทย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.
ส่วนรายได้ส่วนบุคคล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรายได้จากค่าจ้าง การลงทุน และเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ปรับตัวขึ้น 0.4% ในขณะที่รายได้ที่แท้จริง ซึ่งเป็นตัวเลขหลังการปรับค่าอัตราเงินเฟ้อและภาษีแล้วเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ การปรับตัวที่ดีขึ้นของการใช้จ่ายส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เศรษฐกิจในยุโรปและเอเชียกำลังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงขาลง