ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในภาคบริการหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยถึงแม้ตัวเลขเดือนก.ย.ยังอยู่ในกรอบขยายตัว แต่ก็ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2556 เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและภาคการผลิตที่อ่อนแอของอังกฤษได้ส่งผลกระทบต่อบรรดาธุรกิจ
ตัวเลขเดือนก.ย.ส่งผลให้ดัชนี PMI เฉลี่ยสำหรับทั้งไตรมาสสาม อยู่ที่ 55.4 ซึ่งเป็นอัตราที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 2556
มาร์กิตระบุว่า ผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 0.5% ในไตรมาสสามปีนี้ และกำลังเข้าสู่ไตรมาสสี่ด้วยอัตราขยายตัวที่ 0.3% เทียบกับอัตราขยายตัวที่ 0.7% ในไตรมาสสอง
รายงานระบุว่า อัตราขยายตัวของธุรกิจใหม่ในภาคบริการเดือนก.ย.ชะลอตัวลงเป็นครั้งที่ห้าในรอบหกเดือน สวนทางกับการจ้างงานในภาคบริการที่ปรับตัวขึ้น โดยอัตราการจ้างงานแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และขยายตัวเป็นเดือนที่ 33 ติดต่อกัน
คริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์กิต กล่าวว่า ภาวะอ่อนแอได้แพร่กระจายจากภาคการผลิตมายังภาคบริการ โดยส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนส่งและอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีสัญญาณว่าผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นในด้านสันทนาการ อาทิ ร้านอาหารและโรงแรม
ด้านเดวิด โนเบิล ซีอีโอของ CIPS กล่าวว่า การจ้างงานเป็นเรื่องเดียวที่สดใส แม้บริษัทต่างๆได้รายงานถึงผลกระทบจากรายจ่ายด้านค่าแรงที่สูงขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้ว มาร์กิตได้เปิดเผย ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษที่ชะลอตัวลงเช่นกัน ขณะที่ภาคการก่อสร้างดีดตัวขึ้น
โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษ ขยับลงแตะ 51.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 51.6 ในเดือนส.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคก่อสร้างของอังกฤษ ปรับตัวสู่ระดับ 59.9 ในเดือนก.ย. จาก 57.3 ในเดือนส.ค.