การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้แรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อต่ำก็เป็นปัจจัยหนุนการใช้จ่ายเช่นกัน
ส่วนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจในด้านอุปกรณ์เครื่องใช้เพิ่มขึ้น 9.9% ในไตรมาส 3 จากตัวเลขประเมินเดิมที่ 9.5%
การใช้จ่ายในภาครัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ขยับขึ้นจากระดับ 1.7% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
กระทรวงยังได้ปรับลดตัวเลขการส่งออกสู่ระดับ 0.7% ในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์โลกที่ซบเซา ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.3%
กำไรภาคธุรกิจลดลง 8.2% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2008
ทั้งนี้ กระทรวงเปิดเผยว่า ตัวเลขจีดีพีขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ ขยายตัว 2.0% โดยต่ำกว่าตัวเลขประเมินก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.1% และต่ำกว่าระดับ 3.9% ในไตรมาส 2
การชะลอตัวของจีดีพีดังกล่าวเกิดจากลดการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ดี ตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3 ยังคงสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.9% และสูงกว่าระดับ 0.6% ในไตรมาสแรก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4 โดยความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และราคาน้ำมันที่ร่วงลง จะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 2.1% ในปีนี้ และ 2.4% ในปีหน้า