กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของมาเลเซียเดือนก.พ.ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.7% เทียบรายปี หลังจากที่เมื่อเดือนม.ค.หดตัวลง 2.8% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากยอดส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งไปยังสหรัฐอเมริกาและจีน
ยอดส่งออกของมาเลเซียอยู่ที่ 5.672 หมื่นล้านริงกิต (1.449 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.พ. 2559 ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% แตะ 4.937 หมื่นล้านริงกิต (1.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่งผลให้มาเลเซียมีมูลค่าการค้ารวมกันเพิ่มขึ้น 4.2% แตะ 1.0609 แสนล้านริงกิต (2.71 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในเดือนเดียวกันนี้ ยอดส่งออกสินค้าภาคการผลิตได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.5% โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดส่งออกอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวและน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติสองรายการหลักของมาเลเซีย ได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากมีราคาถูกลง
สำหรับมูลค่าการค้ากับสหรัฐอเมริกาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 26.1% แตะ 1.066 หมื่นล้านริงกิต (2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยยอดส่งออกไปยังสหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21% ขณะที่ยอดนำเข้าจากสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 33.1% ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นการค้าขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนยอดส่งออกไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% แตะ 6.49 พันล้านริงกิต (1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) นำโดยยอดส่งออกโลหะ สารเคมี และเคมีภัณฑ์ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์
มูลค่าการค้ากับจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7% แตะ 1.535 หมื่นล้านริงกิต (3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ มูลค่าการค้าของมาเลเซียในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% แตะ 2.244 แสนล้านริงกิต (5.73 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เทียบรายปี โดยส่งออกเพิ่มขึ้น 1.5% และนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.5% สำนักข่าวซินหัวรายงาน