กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าสินค้า 6.971 แสนล้านเยนในเดือนเม.ย. จากที่ขาดดุล 1.320 แสนล้านเยนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกร่วงลง 10.4% จากปีก่อน สู่ระดับ 5.60 ล้านล้านเยน และนำเข้าหดตัว 23.1% มาอยู่ที่ 4.91 ล้านล้านเยน
สำหรับยอดส่งออกที่ลดลงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการส่งออกยานยนต์ที่ลดลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของแผ่นดินไหวในจังหวัดคุมาโมโตะ ขณะที่ยอดนำเข้าที่ลดลงนั้น เป็นผลมาจากมูลค่าการนำเข้าพลังงานที่ลดลง โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบร่วงลงจากปีที่แล้วถึง 51.8% หลังราคาน้ำมันเฉลี่ยลดลง 34.3% สู่ระดับ 36.96 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนเม.ย. ส่วนราคานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ร่วง 44.5%
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นพึ่งพาการนำเข้าพลังงานอย่างมากนับตั้งแต่เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟูกุชิมะ เมื่อเดือนมี.ค. 2554 ซึ่งเป็นเหตุให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงปิดทำการมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากประชาชนกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย
ขณะที่ดุลการค้าบริการเดือนเม.ย. ขาดดุลที่ 4.012 แสนล้านเยน ลดลงจากที่ขาดดุล 5.316 แสนล้านเยนในปีที่แล้ว