กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยดีดตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากทรงตัวในเดือนก.ค. โดยมีสาเหตุจากค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ที่พุ่งขึ้น สวนทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง
ดัชนี CPI ดังกล่าวบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.เมื่อพิจารณาถึงยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ซบเซาของสหรัฐที่มีการเปิดเผยวานนี้
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อยังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI จะขยับขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบรายปี
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 2.3% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนก.ค.