สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยรายงานว่า บริษัทภาคอุตสาหกรรมของจีนมีผลกำไรเติบโตในอัตราเลขสองหลักในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 2560 ด้วยแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน
NBS ระบุในรายงานว่า บริษัทภาคอุตสาหกรรมของจีนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่า 20 ล้านหยวน (ประมาณ 2.92 ล้านดอลลาร์) มีผลกำไรรวมกันทั้งสิ้น 2.28 ล้านล้านหยวนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 24.4% จากปีก่อนหน้า
รายงานระบุว่า ถึงแม้ผลกำไรจะชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 28.3% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ แต่ก็ยังเป็นตัวเลขผลกำไรสูงสุดของช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. นับตั้งแต่ปี 2555 และเมื่อนับเฉพาะเดือนเม.ย.เพียงเดือนเดียวนั้น ผลกำไรของบริษัทภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่ พุ่งขึ้น 14% เทียบรายปี สู่ระดับ 5.7278 แสนล้านหยวน
นายเหอ ผิง นักสถิติของ NBS กล่าวว่า ตัวเลขที่ชะลอตัวลงดังกล่าวเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีกำไรพุ่งขึ้นเป็นอย่างมากในช่วง 3 เดือนแรก
ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในปีที่แล้ว หลังจากที่เผชิญกับภาวะผลกำไรหดตัวในปี 2559 โดยรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการช่วยเหลือในการลดการผลิตส่วนเกิน นอกจากนี้ การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนก็เป็นปัจจัยที่ช่วยให้บริษัทภาคอุตสาหกรรมมีผลกำไรดีขึ้น
NBS ระบุด้วยว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเศรษฐกิจที่สำคัญ มีการขยายตัว 6.5% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำหรับช่วง 4 เดือนแรกนั้น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว 6.7% เมื่อเทียบรายปี