รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เศรษฐกิจขยายตัว 4% ในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี และขยายตัว 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อัตราการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นั้น เพิ่มขึ้น 0.9% เนื่องจากยอดขายที่สดใสของสินค้าคงทน เช่น รถยนต์และเครื่องปรับอากาศ
ทั้งนี้ GDP เป็นมูลค่าทั้งหมดของสินค้าและบริการที่ได้มีการผลิตในประเทศ
ตัวเลขนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า ความต้องการภายในประเทศเป็นปัจจัยผลักดันหลักของการขยายตัว เนื่องจากการส่งออกไปยังเอเชียนั้นชะลอตัวลง โดยความต้องการจากต่างประเทศก็มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการค้าในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา
การขยายตัวของค่าแรงที่ซบเซาและความกังวลเกี่ยวกับอนาคตเป็นต้นเหตุของความเชื่อมั่นที่อ่อนแอของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุที่สร้างความลำบากให้กับผู้บริหารระดับนโยบายที่ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
สำหรับการใช้จ่ายด้านเงินทุนของบริษัทต่างๆนั้น เพิ่มขึ้น 2.4% และการส่งออกอ่อนตัวลง 0.5% ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.4%