วินด์ อินโฟ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงินที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า บริษัทจีนส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นจีนมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้
รายงานระบุว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียน 1,347 แห่งได้เปิดเผยผลประกอบการในช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ โดยเกือบ 70% ของบริษัทเหล่านี้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ กำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 1,347 แห่งที่ได้เปิดเผยผลประกอบการนั้น รวมกันอยู่ที่ 7.315 แสนล้านหยวน หรือ 1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวต่อวัฏจักรทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่อุตสาหกรรมถ่านหิน เหล็ก และเวชภัณฑ์ รวมทั้งอุตสาหกรรมใหม่ๆซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าที่มีความทันสมัย และอุตสาหกรรมพลังงานใหม่
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของจีนที่มีการเปิดเผยในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า กำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีนช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ปีนี้ ปรับตัวขึ้น 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ที่มีการขยายตัว 16.2%
ส่วนในเดือนก.ย.เพียงเดือนเดียวนั้น กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมของจีนที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 20 ล้านหยวน (หรือประมาณ 2.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 5.455 แสนล้านหยวน ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 9.2%
นายเหอ ปิง เจ้าหน้าที่ของ NBS กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ซบเซาลงนั้น มาจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมและราคาสินค้าในภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลของ NBS ว่า อุตสาหกรรมเหล็ก วัสดุก่อสร้าง น้ำมันและเคมีภัณฑ์ เป็นภาคส่วนที่สามารถทำกำไรได้แข็งแกร่งที่สุดในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้