กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าปี 2561 อยู่ที่ระดับ 1.20 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 ปี เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนยอดนำเข้าในปี 2561 ปรับตัวขึ้น 9.7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 82.69 ล้านล้านเยน ซึ่งมากกว่ายอดส่งออกที่ปรับตัวขึ้นเพียง 4.1% แตะที่ระดับ 81.49 ล้านล้านเยน
ทั้งนี้ ต้นทุนการนำเข้าสินค้าด้านพลังงานของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้น โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 24.5% แตะระดับ 8.91 ล้านล้านเยน
เมื่อแยกตามภูมิภาค ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้ากับจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ที่ระดับ 3.28 ล้านล้านเยน ขณะเดียวกันญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐที่ระดับ 6.45 ล้านล้านเยน ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากระดับของปีก่อนหน้า อันเนื่องมาจากยอดส่งออกรถยนต์ปรับตัวลดลง ในขณะที่ยอดนำเข้าเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้ากับยุโรปที่ระดับ 4.875 แสนล้านเยน อันเป็นผลมาจากยอดนำเข้ายาจากไอร์แลนด์ที่สูงขึ้น
สำหรับเดือนธ.ค. 2561 ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 5.53 หมื่นล้านเยน ส่วนยอดส่งออกปรับตัวลง 3.8% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 แตะที่ระดับ 7.02 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 1.9% แตะที่ 7.08 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน