กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.ทรุดตัวลง 90.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 6.04 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 546 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากการส่งออกไปยังประเทศจีนยังคงอ่อนแอ อันเป็นผลมาจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นยังคงมียอดเกินดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
สำหรับยอดส่งออกเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 6.66 ล้านล้านเยน ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 6.4% สู่ระดับ 6.60 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อพิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่า ยอดส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และชิ้นส่วนรถยนต์ ร่วงลง 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ยอดนำเข้าจากจีนพุ่งขึ้น 5.9% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้ากับจีนทั้งสิ้น 3.183 แสนล้านเยน
ส่วนประเทศคู่ค้ารายอื่นๆนั้น ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐพุ่งขึ้น 17.7% แตะที่ระดับ 7.232 แสนล้านเยน โดยได้แรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ทั้งสิ้น 3.4 พันล้านเยน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศเบลเยียม
สำหรับกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งรวมถึงจีนด้วยนั้น ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าลดลง 36.8% แตะที่ระดับ 4.501 แสนล้านเยน