สมาคมห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายในห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 23.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 5.153 แสนล้านเยน (4.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากประชาชนแห่ซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก ก่อนที่มาตรการปรับขึ้นภาษีการบริโภคจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.
ทั้งนี้ ยอดขายในเดือนก.ย.ทำสถิติขยายตัวแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2557 และยังทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
รายงานของสมาคมฯระบุว่า ยอดขายสินค้าหรูหราพุ่งขึ้นแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ โดยยอดขายสินค้าประเภทศิลปะ เครื่องประดับ และโลหะมีค่า ทะยานขึ้น 102.9% ในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดขายเครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มบังคับใช้มาตรการปรับขึ้นภาษีการบริโภคสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 8% เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ทางรัฐบาลพยายามหาทางลดผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของต้นทุนด้านประกันสังคม อันเนื่องมาจากจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น และอัตราการเกิดที่ลดน้อยลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันดังกล่าวว่า มาตรการปรับขึ้นภาษีการบริโภคที่มีการบังคับใช้ล่าสุดนี้ ถือเป็น "ความคืบหน้าครั้งใหญ่" ที่รัฐบาลพยายามผลักดันควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบประกันสังคม