รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในภาวะ "ย่ำแย่" ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนก.พ. แม้ยอดขายในร้านขายยาที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ช่วยหนุนดัชนีชี้วัดการอุปโภคบริโภคดีดตัวขึ้นในระดับหนึ่งก็ตาม
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเตือนว่า ผลกระทบด้านลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวลงด้านการผลิต และการขนส่ง รวมทั้งการจ้างงานที่ลดลงนั้น จะสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้นในข้อมูลประจำเดือนมี.ค. และในเดือนถัดไป
ทั้งนี้ ดัชนีพ้องเศรษฐกิจ (Coincident Index) ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้น ปรับตัวขึ้น 0.6 จุดจากระดับของเดือนม.ค. สู่ระดับ 95.8 ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับฐานปี 2558 ที่ระดับ 100 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งของหน้ากากอนามัย, ยารักษาโรค และสินค้าอื่นๆ ในร้านขายยา
นอกเหนือจากการประเมินว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะย่ำแย่แล้ว สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในช่วงเวลาที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ และผู้ผลิตสินค้าประเภทอื่นๆ ของญี่ปุ่นได้พากันระงับการผลิต ขณะที่ธุรกิจค้าปลีก, บริษัทท่องเที่ยว และร้านอาหาร ต่างก็ได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลง หลังจากรัฐบาลได้เรียกร้องให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19