ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงต้นเดือนก.ค. หลังจากรัฐต่างๆ ในสหรัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เคยบังคับใช้อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายส่วนของประเทศ
รายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในเกือบทุกเขต แต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูงมาก เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการไม่มั่นใจว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยาวนานเพียงใด
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า อุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมสันทนาการและโรงแรม ไปจนถึงบริการวิชาชีพและธุรกิจบริการต่างๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ยังอ่อนแอกว่าในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19
เฟดสาขาดัลลัสรายงานว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจในเขตดัลลัสส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่กลับมาเพิ่มขึ้น และการระงับคำสั่งเปิดเศรษฐกิจในเขตนั้น ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับภาคธุรกิจ
ส่วนเฟดสาขาเซนต์หลุยส์รายงานว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่อัตราการฟื้นตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้านับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย.
ขณะที่เฟดสาขาซานฟรานซิสโกระบุว่า ผู้ประกอบการร้านอาหารในลอสแอนเจลิสคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงอีก โดยแม้ว่าผู้ประกอบการเพิ่มการจ้างงานเล็กน้อย แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเลิกจ้างพนักงานอีกครั้ง เนื่องจากรัฐแคลิฟอร์เนียชะลอการเปิดเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ การเผยแพร่รายงาน Beige Book มีขึ้นก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) จะจัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28-29 ก.ค.นี้