กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจดิ่งลง 2.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2535 หลังจากปรับตัวลง 1.4% ในเดือนเม.ย.
การดิ่งลงของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าปลีก ซึ่งร่วงลง 6.2% ในเดือนพ.ค. ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งลดลง 1.2%
ยอดขายในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 8.4% ในเดือนพ.ค. หลังจากดิ่งลง 14.4% ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.51 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก ลดลงจากระดับ 1.67 เดือนในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่การลดลงของสต็อกสินค้าคงคลัง บ่งชี้ถึงความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อยอดขายในอนาคต