สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 11.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวลง 0.5% โดยทั้งยอดส่งออกและนำเข้าของจีนคำนวณในรูปสกุลเงินหยวน
ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนส.ค.อยู่ที่ 4.1659 แสนล้านหยวน
หากคำนวนในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวขึ้น 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2562 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 7.1% ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนส.ค.ลดลง 2.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้น 0.1%
ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนส.ค.อยู่ที่ 5.893 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะจีนจะมียอดเกินดุลการค้า 5.050 หมื่นล้านดอลลาร์
ยอดส่งออกของจีนปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนส.ค. โดยแรงหนุนจากการที่ประเทศคู่ค้าของจีนได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เคยนำมาใช้อย่างเข้มงวดก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้น
ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 6% แตะที่ระดับ 2.88 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 4.2114 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าต่างประเทศขยับลง 0.6% แตะที่ 20.05 ล้านล้านหยวน โดยกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของจีน ด้วยมูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้น 7% แตะที่ 2.93 ล้านล้านหยวน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 14.6% ของมูลค่าการค้าต่างประเทศโดยรวมของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.