กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 26.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี นับเป็นการขยายตัวในอัตราเลขสองหลักติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยได้แรงหนุนจากยอดส่งออกอุปกรณ์สำหรับการผลิตชิปที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้น 37% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 34% โดยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งทั่วเอเชีย
ข้อมูลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ยอดส่งออกไปยังจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่นนั้น เพิ่มขึ้น 12.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี นำโดยยอดส่งออกเคมีภัณฑ์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ยอดส่งออกไปยังสหรัฐ พุ่งขึ้น 22.8% โดยได้แรงหนุนจากความต้องการเครื่องจักรสำหรับการผลิตพลังงาน ขณะที่ยอดส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชีย เพิ่มขึ้น 26.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน และยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรปปรับตัวขึ้น 29.9%
ส่วนยอดนำเข้าเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 44.7% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 28.5% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 40% ส่งผลญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนส.ค.ที่ระดับ 6.354 แสนล้านเยน (5.81 พันล้านดอลลาร์) น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ 4.77 หมื่นล้านดอลลาร์