สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนเม.ย.ของออสเตรเลียอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ เปิดรับพนักงานเต็มเวลาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มตึงตัว และจะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต
ทั้งนี้ ABS ระบุว่า อัตราว่างงานในเดือนเม.ย.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.9% จากระดับ 3.9% หลังปรับทวนแล้วในเดือนมี.ค.
ส่วนตัวเลขการจ้างงานนั้นเพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค. 4,000 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งงานเต็มเวลาที่เพิ่มขึ้นนั้นได้แรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากตำแหน่งงานชั่วคราวที่ลดลง
ขณะเดียวกันอัตราว่างงานที่ลดลงในเดือนเม.ย. ยังเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ซึ่งชูเรื่องการจ้างงานเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 พ.ค.นี้ โดยนายมอร์ริสันพยายามหาทางที่จะลดข้อเสียเปรียบให้มากที่สุด หลังผลสำรวจความเห็นของประชาชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า รัฐบาลของนายมอร์ริสันมีคะแนนตามหลังคู่แข่งอย่างพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน
นอกจากนี้ นายมอร์ริสันยังระบุด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง, จำนวนผู้มีงานทำ,ความมั่งคั่งในครัวเรือนที่สูงเป็นประวัติการณ์ และความเสี่ยงในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
หลังจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงาน นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลียทวีตข้อความว่า "แผนเศรษฐกิจของเราเริ่มเห็นผล อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และเศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่ง"