กำไรภาคอุตสาหกรรมจีนเดือนเม.ย.ร่วง 8.5% มาตรการล็อกดาวน์กระทบศก.รุนแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 27, 2022 10:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (27 พ.ค.) ว่า กำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนลดลง 8.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 และสวนทางกับในเดือนมี.ค.ที่พุ่งขึ้น 12.2%

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยฉุดผลกำไร และส่งผลให้กิจกรรมด้านการผลิตหยุดชะงักลง

ส่วนหนี้สินในภาคอุตสาหกรรมของจีนเพิ่มขึ้น 10.4% ณ สิ้นเดือนเม.ย. ซึ่งชะลอลงเล็กน้อยจาก ณ สิ้นเดือนมี.ค.ซึ่งมีการขยายตัว 10.5%

ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.ปีนี้ กำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนขยับขึ้นเพียง 3.5% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 2.66 ล้านล้านหยวน (3.9501 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วง 3 เดือนแรกที่มีการขยายตัว 8.5%

ทั้งนี้ กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพิจารณาจากบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 2.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานของ NBS ยังระบุด้วยว่า กำไรของภาคอุตสาหกรรมในเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ทรุดตัวลง 61.5% เนื่องจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจของจีนในบางด้านอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่กว่าในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนถึงท่าทีของจีนที่ยอมรับว่า รัฐบาลอาจจะพลาดเป้าหมายการผลักดันตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ให้ขยายตัวที่ระดับ 5.5% ในปีนี้ เนื่องจากจีนยังคงต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า GDP ปี 2565 ของจีนจะขยายตัวเพียง 4.5% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่ระดับ 5.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ