ยอดค้าปลีกออสซี่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนเศรษฐกิจฟื้นตัวแกร่ง

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคครัวเรือนของออสเตรเลียยังคงจับจ่ายใช้สอย แม้ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากราคาเชื้อเพลิงและสินค้าประเภทอื่น ๆ พุ่งขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 0.9% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้านี้ด้วย

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และบรรดาผู้บริโภคกำลังปรับตัวเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง

นอกจากนี้ ABS ยังเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า การที่เศรษฐกิจออสเตรเลียเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเป็นวงกว้างนั้น ทำให้บริษัทเอกชนมากกว่า 1 ใน 3 วางแผนที่จะปรับขึ้นราคาสินค้าและการบริการในอีก 3 เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อและราคาสินค้าอาจส่งผลให้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 0.25% สู่ระดับ 0.35% ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา

RBA ส่งสัญญาณในรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ว่า RBA จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกในวันข้างหน้า

"นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่ RBA จะเริ่มถอนมาตรการสนับสนุนทางการเงิน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเศรษฐกิจของประเทศใกล้จะบรรลุการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ คณะกรรมการบริหารของ RBA มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อในออสเตรเลียกลับคืนสู่เป้าหมาย ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" นายฟิลลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA กล่าว