กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) เปิดเผยวันนี้ (30 มิ.ย.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือนพ.ค.ทรุดตัวลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับแรงกดดันจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโควิด-19 และภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนชนิดอื่น ๆ กระทบผู้ผลิต ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัว
การทรุดตัวลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ดังกล่าวเน้นย้ำถึงความท้าทายที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญในการสยบภาวะชะงักงันด้านอุปทาน และราคาวัตถุดิบและพลังงานที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นลดลง 7.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการผลิตสินค้ากลุ่มาง ๆ เช่น รถยนต์ รวมถึง เครื่องจักรสำหรับงานไฟฟ้าและเครื่องจักรเอนกประสงค์ลดลงอย่างหนัก
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 0.3% อย่างมาก โดยถือเป็นการปรับตัวลงรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่การลดลง 10.5% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนพ.ค. 2563
ข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่หนึ่งวันหลังโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อวัดตามยอดขาย เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ทั่วโลกสำหรับเดือนพ.ค. นั้นต่ำกว่าเป้า แม้ก่อนหน้านี้บริษัทเคยปรับลดคาดการณ์ไปแล้วก็ตาม
โตโยต้าผลิตรถยนต์ได้ 634,940 คันทั่วโลกในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ประมาณ 700,000 คัน ซึ่งลดลง 50,000 คันจากเป้าหมาย 750,000 คันในช่วงกลางเดือนเม.ย. เพราะการควบคุมโรคระบาดในนครเซี่ยงไฮ้
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความเห็นของกลุ่มผู้ผลิตซึ่งจัดทำโดย METI ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตคาดการณ์ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะฟื้นตัว 12.0% ในเดือนมิ.ย. ตามด้วยการขยายตัว 2.5% ในเดือนก.ค.