สำนักงานศุลกากรจีนรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนร่วงลง 7.5% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากความต้องการสินค้าจีนในตลาดโลกชะลอตัวลงซึ่งรวมถึงสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ยังร่วงลงรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.4%
ส่วนยอดนำเข้าเดือนพ.ค.ลดลง 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 8% และเป็นการปรับตัวลงน้อยกว่าในเดือนเม.ย.ที่ลดลง 7.9%
ทั้งนี้ การส่งออกที่ทรุดตัวลงอย่างหนักส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าลดลง 16.1% สู่ระดับ 6.581 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 และชะลอตัวลงจากยอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.ซึ่งอยู่ที่ 9.02 หมื่นล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงนั้น อาจจะส่งผลให้การส่งออกของจีนถูกกดดันอย่างหนักในปีนี้ เนื่องจากยุโรปและสหรัฐซึ่งเป็นผู้ใช้สินค้าจีนรายใหญ่นั้น เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น