องค์กรพัฒนาเมืองสิงคโปร์ (Urban Redevelopment Authority หรือ URA) เปิดเผยวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า ค่าเช่าบ้านในสิงคโปร์ได้ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี อันเป็นผลจากการที่มีบ้านปล่อยให้เช่ามากขึ้น ประกอบกับกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว ทำให้เจ้าของบ้านต้องยอมลดราคาเพื่อดึงดูดผู้เช่า
ดัชนีค่าเช่าบ้านในสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 2.1% ในไตรมาส 4/2566 หลังปรับตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาส 3/2566 โดยปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 และยังเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2552 ด้วย
URA ระบุว่า ค่าเช่าบ้านที่ปรับตัวลดลงครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างเพราะมีบ้านปล่อยให้เช่ามากขึ้น โดยเมื่อปีที่แล้วมีที่พักอาศัยส่วนตัวสร้างเสร็จประมาณ 21,300 ยูนิต ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 และมากกว่าจำนวนของปี 2565 เป็นเท่าตัว
คริสติน ซัน หัวหน้านักวิจัยและนักยุทธศาสตร์ของบริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ออเรนจ์ที กรุ๊ป (OrangeTee Group) กล่าวว่า "ผู้ให้เช่ามีความเต็มใจยอมรับราคาที่ถูกลงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มบ้านหรู เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น" นอกจากนี้ บรรดาผู้เช่ายังเปิดใจมองหาทำเลในชานเมืองซึ่งมีค่าเช่าถูกกว่าด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความมั่งคั่งที่หลั่งไหลเข้ามาในยุคโควิดช่วยให้สิงคโปร์สามารถรับมือกับภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นในศูนย์กลางทางการเงินอื่น ๆ อย่างฮ่องกงได้ แต่ขณะเดียวกันก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวสิงคโปร์เอง ก่อนที่รัฐบาลจะออกมาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ตามมาในภายหลัง