โรบิน เดนโฮล์ม ประธานบริษัทเทสลา (Tesla) ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) ที่ระบุว่า คณะกรรมการบริหารของเทสลาได้ติดต่อบริษัทจัดหาผู้บริหารหลายแห่งเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว เพื่อสรรหาผู้ที่จะมาทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แทนอีลอน มัสก์
เดนโฮล์มระบุว่ารายงานข่าวของ WSJ เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง และยังได้โพสต์ข้อความบน X ว่า คณะกรรมการของเทสลามีความมั่นใจอย่างมากว่า มัสก์จะสามารถบริหารกิจการของเทสลาได้ตามแผนที่วางไว้ในวันข้างหน้า ขณะที่มัสก์ได้โพสต์ข้อความบน X ว่ารายงานของ WSJ เป็นการเขียนบทความเท็จอย่างมีเจตนา
หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 2.8% ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี (1 พ.ค.) หลังจากเดนโฮล์มได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวของ WSJ แต่ในเวลาต่อมาหุ้นเทสลาปิดตลาดอ่อนแรงลง 0.58%
WSJ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเมื่อวันพุธ (30 เม.ย.) ว่า คณะกรรมการกำลังมองหาซีอีโอคนใหม่ เนื่องจากมัสก์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างมากในคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเปิดเผยกับ WSJ ว่า คณะกรรมการบริหารของบริษัทเทสลาได้ประชุมร่วมกับมัสก์ และขอให้เขายืนยันว่าจะใช้เวลาในการดูแลกิจการของเทสลามากขึ้น
อย่างไรก็ดี มัสก์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาจะใช้เวลาในการทำงานให้กับกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ให้น้อยลง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป และจะหันไปดูแลธุรกิจต่าง ๆ ของเขาซึ่งรวมถึงเทสลา โดยการเปิดเผยของมัสก์มีขึ้นหลังจากที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับบทบาทของเขาใน DOGE ซึ่งมัสก์ได้ทำการลดงบประมาณและปลดเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐบาลกลางเป็นจำนวนมาก
บทบาทของมัสก์ใน DOGE ได้สร้างความไม่พอใจต่อหลายฝ่าย จนทำให้มีการประท้วงและคว่ำบาตรการซื้อรถยนต์เทสลา รวมทั้งมีการเผารถยนต์และโชว์รูมของเทสลาหลายแห่ง ทั้งในสหรัฐฯ และในหลายประเทศ นอกจากนี้ การที่มัสก์แสดงท่าทีสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดในยุโรปยังได้นำไปสู่การประท้วงต่อต้านตัวเขาและบริษัทเทสลาทั่วสหรัฐฯ และยุโรป