พนักงานไปรษณีย์และพนักงานส่งพัสดุจากไปรษณีย์สหรัฐฯ (USPS) และยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (UPS) อาจถูกเลิกจ้างเป็นหลักหมื่นรายในปีนี้ โดยทั้งสองหน่วยงานต่างกำลังหาทางลดต้นทุนและปรับโครงสร้างการดำเนินงาน เพื่อตอบสนองต่อผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนวัตกรรมดิจิทัล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้บริหารของ UPS ได้ประกาศแผนปรับลดตำแหน่งงาน 20,000 ตำแหน่งในปีนี้ หรือคิดเป็นราว 4% ของตำแหน่งงานทั่วโลก และมีแผนจะปิดศูนย์กระจายสินค้า 73 แห่งภายในสิ้นเดือนมิ.ย.
การปิดศูนย์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวในการปรับปรุงการดำเนินงานของศูนย์กระจายสินค้าให้ทันสมัย ซึ่งรวมถึงการเพิ่มระบบอัตโนมัติทั้งแบบเต็มรูปแบบและบางส่วนแก่ศูนย์กระจายสินค้า 400 แห่งของบริษัท โดยในช่วงต้นปีนี้ UPS ประกาศว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับอะเมซอน (Amazon) ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัท เพื่อลดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจลงกว่า 50% ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2569
ขณะเดียวกัน หลุยส์ เดอจอย อธิบดี USPS ในขณะนั้น ประกาศในเดือนมี.ค.ว่า USPS จะเลิกจ้างพนักงาน 10,000 ตำแหน่ง ตลอดจนปรับลดงบประมาณด้วยความช่วยเหลือจากกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ USPS ขาดทุนเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ และอาจขาดทุนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ USPS มีพนักงาน 533,724 คน นับจนถึงปี 2567