ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ (8 พ.ค.) ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเมื่อวานนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดกันไว้
นักลงทุนจับตารอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และรัฐมนตรีคลังของจีนมีกำหนดจะพบปะกันที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้าและเศรษฐกิจ
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธ (7 พ.ค.) ว่า เขาจะไม่พิจารณาลดภาษีการค้ากับจีนที่สูงถึง 145% แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมที่จะเข้าร่วมเจรจาการค้ากับจีนก็ตาม
เมื่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวถามว่า เขายินดีที่จะลดภาษีเพื่อนำจีนเข้าสู่โต๊ะเจรจาหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "ไม่"
-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวานนี้ (7 พ.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด
แถลงการณ์ของเฟดได้เตือนถึงความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจ และความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยควบคู่กับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น (stagflation) โดยระบุว่า "คณะกรรมการเฟดให้ความสนใจต่อความเสี่ยงที่มีต่อพันธกรณีทั้งสองประการของเฟด และประเมินว่าความเสี่ยงของการว่างงานที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นได้เพิ่มขึ้นแล้ว"
-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงในวันพุธที่ 7 พ.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อมูลที่เฟดได้รับเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่ง แม้ว่าความผันผวนของยอดส่งออกสุทธิได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลก็ตาม ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ส่วนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคณะกรรมการยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงที่จะมีต่อ Dual Mandate ของเฟด คือการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% โดยคณะกรรมการประเมินว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นที่อัตราว่างงานและเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น
-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ววานนี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
ในระหว่างการเยือนรัสเซียในครั้งนี้ ปธน.สีจะเข้าร่วมการเฉลิมฉลองพิธีครบรอบ 80 ปีของวันแห่งชัยชนะของสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
-- ธนาคารกลางโปแลนด์ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.25% เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 19 เดือนของทางธนาคารกลาง หลังจากที่ได้คงอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่ปลายปี 2566 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
-- พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกได้เข้าร่วมการประชุมลับที่โบสถ์น้อยซิสทีนในวันพุธ (7 พ.ค.) เพื่อทำการสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่
สื่อรายงานว่า พระคาร์ดินัลได้เข้าสู่โบสถ์น้อยซิสทีน ณ เวลา 16.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
-- บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจสตรีมมิง
ดิสนีย์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.45 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.20 ดอลลาร์/หุ้น
-- สำนักข่าว AP รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงชื่ออย่างเป็นทางการของอ่าวเปอร์เซีย เป็นอ่าวอาหรับ หรืออ่าวอาระเบีย
คาดว่าหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็จะสร้างความพึงพอใจต่อผู้นำของชาติอาหรับ แต่จะสร้างความไม่พอใจต่ออิหร่าน
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (8 พ.ค.) ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม, อินโดนีเซียเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนเม.ย., เยอรมนีเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค., อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย.จาก Halifax รวมถึงธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมถึงสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค.