ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน เปิดเผยในวันนี้ (14 พ.ค.) ว่า กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 91% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการเซิร์ฟเวอร์ AI ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับลดมุมมองต่อการคาดการณ์การเติบโตตลอดทั้งปี เนื่องจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ กดดันบรรยากาศการค้าโลก
กำไรสุทธิของฟ็อกซ์คอนน์ในเดือนม.ค.-มี.ค.ปีนี้ อยู่ที่ 4.212 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ราว 3.55-3.78 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน ขณะที่รายได้ของบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าวพุ่งขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สู่ระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบ iPhone รายใหญ่ให้กับแอปเปิ้ล (Apple) และเป็นผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ให้กับอินวิเดีย (Nvidia) มองว่า บริษัทจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 2/2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีมุมมองที่ไม่สดใสนักต่อรายได้ตลอดทั้งปี โดยปรับลดมุมมองจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง เป็นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ไม่ได้แจกแจงเป็นตัวเลขแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจบดบังแนวโน้มการเติบโตของฟ็อกซ์คอนน์ในปีนี้ เนื่องจากฟ็อกซ์คอนน์มีฐานการผลิตหลักอยู่ในจีน และแม้ว่าทางการสหรัฐฯ และจีนตกลงลดภาษีให้แต่ละฝ่ายเป็นเวลา 90 วันแล้ว แต่ความยินดีกับการสงบศึกทางการค้าชั่วคราวอาจคงอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อพิจารณาจากความจำเป็นในการทำข้อตกลงการค้าถาวร ขณะเดียวกัน ภาษีที่สูงขึ้นโดยรวมก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน