กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยในวันนี้ (23 พ.ค.) ว่า สหรัฐฯ และจีนได้ตกลงที่จะยังคงมีการสื่อสารร่วมกันต่อไป หลังจากหม่า จ้าวซู่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน และคริสโตเฟอร์ แลนเดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้หารือกันทางโทรศัพท์
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่างๆ ในระหว่างการพูดคุยกันโทรศัพท์ในวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ที่คล้ายกันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีและข้อตกลงในการรักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง
แถลงการณ์ของทั้งสองฝ่ายมีขึ้นหลังจาก สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้บรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวในระหว่างการพบปะเจรจาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงต้นเดือนนี้ โดยเห็นพ้องให้ปรับลดภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนลงเหลือ 30% จากเดิม 145% และลดภาษีศุลกากรที่จีนเรียกเก็บจากสินค้าสหรัฐฯ ลงเหลือ 10% จากเดิม 125%
อย่างไรก็ดี แม้จีนและสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว แต่ดูเหมือนว่าสงครามการค้าของทั้งสองประเทศยังคงดำเนินอยู่ โดยทางการจีนได้กล่าวโจมตีสหรัฐฯ ที่เตือนบริษัทต่าง ๆ ไม่ให้ใช้ชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผลิตในจีน โดยเฉพาะชิปที่ผลิตโดยบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ โดยกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ เป็น "การรังแกฝ่ายเดียว" และกล่าวโทษว่าสหรัฐฯ บ่อนทำลายการเจรจาการค้า