รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจในวันนี้ (27 พ.ค.) ว่า ทางรัฐบาลจะจัดสรรเงินมูลค่า 3.881 แสนล้านเยน (2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากกองทุนสำรองสำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน เพื่ออุดหนุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของภาคครัวเรือนและธุรกิจในช่วงฤดูร้อน ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เงินอุดหนุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือที่ทางรัฐบาลได้เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ถูกเรียกเก็บเพิ่มเติม 25% และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่น
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นประมาณการว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือโดยรวมนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 2.8 ล้านล้านเยน ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายของรัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทเอกชน
"ผลกระทบของ (ภาษีศุลกากรสหรัฐฯ) กำลังปรากฏให้เห็นในบริษัทบางแห่ง" นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ กล่าวในการประชุมของรัฐบาล โดยตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทบางแห่งคาดการณ์ว่าผลกำไรจะลดลงในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งสิ้นสุดในเดือนมี.ค.
อิชิบะยังกล่าวด้วยว่า เนื่องจากบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางบางแห่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาวะทางธุรกิจ "เราจะพยายามอย่างเต็มที่" เพื่อสนับสนุนบริษัทกลุ่มดังกล่าวซึ่งมีสัดส่วนสูงในตลาดแรงงานญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น คาดว่าเงินอุดหนุนจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของครัวเรือนลง 1,040 เยนในเดือนก.ค. - ก.ย. และลดลง 1,260 เยนในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่อุณหภูมิสูงสุดของฤดูร้อน
อย่างไรก็ดี บรรดานักวิจารณ์อ้างว่ามาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างฐานเสียงสนับสนุนรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรในฤดูร้อน หลังจากคะแนนนิยมของคณะรัฐมนตรีอิชิบะร่วงหนัก