รี ชางยอง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ส่งสัญญาณว่า BOK จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก หลังจากที่ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในวันนี้ (29 พ.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ผู้ว่าการ BOK ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอาจจะมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น เนื่องจากแรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอลงมากกว่าที่ BOK คาดการณ์ไว้ โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชะลอตัวในภาคการก่อสร้าง การบริโภคในภาคเอกชน และการส่งออก แม้ว่าแรงขับเคลื่อนนี้มีแนวโน้มว่าจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ก็ตาม พร้อมกับชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนสูงที่เกิดจากสภาพแวดล้อมด้านการค้าโลก
นอกจากนี้ ผู้ว่าการ BOK ระบุว่า ขณะนี้กรรมการ 4 คนของ BOK มองว่า อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงอีกในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นข้อบ่งชี้ว่า BOK จะรักษาระดับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหนึ่งครั้งต่อไตรมาสต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่ลดลงต่ำกว่า 2% ในขณะนี้
คณะกรรมการ BOK มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปัจจุบัน นอกจากนี้ การปรับลดดอกเบี้ยยังมีขึ้นในขณะที่เกาหลีใต้เผชิญกับความปั่นป่วนทางการเมืองและผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์
เกาหลีใต้ถูกคณะบริหารของปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในอัตรา 25% อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ได้ผ่อนปรนด้วยการระงับการเรียกเก็บภาษีเป็นเวลา 90 วัน ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้กำลังเร่งทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 8 ก.ค.
นอกจากนี้ BOK ยังได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปี 2568 โดยคาดว่า GDP ที่แท้จริง ซึ่งปรับตามอัตราเงินเฟ้อแล้วนั้น จะขยายตัวเพียง 0.8% ในปี 2568 ลดลงจากระดับ 1.5% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ สาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศที่ล่าช้า และมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของ BOK ต่ำกว่าที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 1.5% ในปี 2568 และต่ำกว่าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.0%