เก็น นาคาทานิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า ญี่ปุ่นไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการภาษีศุลกากร โดยการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่การเจรจาการค้าทวิภาคีรอบที่ 4 จะเปิดฉากขึ้น
นาคาทานิแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ "เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาบนพื้นฐานของความจำเป็นต่อสันติภาพของประเทศเรา" โดยเน้นย้ำว่าการเจรจาภาษีศุลกากรและประเด็นด้านความมั่นคงเป็นเรื่องที่แยกจากกัน
"เมื่อมีการซื้อยุทโธปกรณ์ เราจะศึกษาดูก่อนว่าอะไรเหมาะสมกับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันประเทศของเรา จากนั้นจึงจะตัดสินใจเลือกรุ่นและจำนวนที่เฉพาะเจาะจง" เขากล่าว และเสริมว่ากระทรวงกลาโหมจะทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาษี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ถ้อยแถลงของนาคาทานิมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่หัวหน้าคณะเจรจาด้านภาษีศุลกากรของญี่ปุ่นกล่าวว่า การซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ อาจช่วยลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นอาจใช้สิ่งนี้เป็นข้อต่อรองในการเจรจาทวิภาคีเกี่ยวกับภาษีศุลกากร
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า นาคาทานิมีกำหนดพบปะหารือกับพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ นอกรอบการประชุมสุดยอดความมั่นคงแห่งเอเชีย หรือ แชงกรีล่า ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue) ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วันที่สิงคโปร์ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้
ทางด้านเรียวเซ อาคาซาวะ ผู้ช่วยคนสนิทของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาจะพบกับสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านการเจรจาภาษี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของสหรัฐฯ โดยการพบกันอาจมีขึ้นในวันนี้