อินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (7 มิ.ย.) ว่า การเจรจาการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งดำเนินมาต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 9 ปี มีแนวโน้มจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ หลังจากแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เข้าพบมารอช เชฟโควิช กรรมาธิการฝ่ายการค้าของ EU ที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันศุกร์ (6 มิ.ย.)
อินโดนีเซียและ EU เห็นพ้องร่วมกันว่าจะเร่งสรุปประเด็นค้างคาเพื่อให้สามารถประกาศผลการเจรจาอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงใด ๆ ในขณะนี้
EU ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 5 ของอินโดนีเซีย โดยในปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้ารวมระหว่างสองฝ่ายอยู่ที่ 3.01 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอินโดนีเซียเกินดุลการค้า 4.5 พันล้านดอลลาร์จากการค้ากับ EU
ตลอดช่วงการเจรจาที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีข้อขัดแย้งในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องกฎการค้าของ EU ที่มุ่งจัดการกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งส่งผลต่อการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย รวมถึงข้อจำกัดจากฝั่งอินโดนีเซียที่ยังคงห้ามส่งออกแร่ดิบ
ท่ามกลางแรงกดดันด้านการค้าจากสหรัฐฯ นั้น อินโดนีเซียได้เร่งการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อกระจายตลาดส่งออกและลดการพึ่งพาตลาดเดิม
สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ผลักดันนโยบายภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) อย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายลดการขาดดุลการค้าของประเทศ แม้การเก็บภาษีดังกล่าวจะถูกระงับชั่วคราวจนถึงเดือนก.ค.นี้ แต่อินโดนีเซียยังคงเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 32% จากสหรัฐฯ