สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธ (11 มิ.ย.) ว่า สหรัฐฯ อาจขยายเวลาระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรระยะ 90 วันกับสินค้าต่าง ๆ จากคู่ค้ารายสำคัญ หากพวกเขายังคงเจรจาอย่างจริงใจต่อไป
เบสเซนต์กล่าวในการแถลงต่อรัฐสภาว่า "มีความเป็นไปได้อย่างมากที่เราจะขยายเวลาให้กับประเทศเหล่านั้น หรือกลุ่มการค้าต่าง ๆ อย่างในกรณีของสหภาพยุโรป (EU) ที่กำลังเจรจากับเราด้วยความจริงใจ เพื่อให้การเจรจาดำเนินต่อไป หากใครไม่ยอมเจรจา เราก็จะไม่ขยายเวลาให้เช่นกัน"
เบสเซนต์เปิดเผยถ้อยแถลงดังกล่าวหลังถูกถามเกี่ยวกับการขยายเวลาระงับเก็บภาษีที่กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ ขณะที่เน้นย้ำว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเจรจากับคู่ค้าสำคัญทั้ง 18 รายเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน และถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะขยายเวลาการระงับเก็บภาษีระยะ 90 วันออกไป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในคู่ค้าที่กำลังเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ที่กำลังมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่น มีกำหนดการพบปะกับทรัมป์แบบตัวต่อตัวในอีกไม่ถึงสัปดาห์ในการประชุมกลุ่ม G7 ที่แคนาดา
ขณะเดียวกัน เรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาด้านภาษีศุลกากรของญี่ปุ่นเตรียมหารือกับคณะรัฐมนตรีสหรัฐฯ รอบที่ 6 ในวันศุกร์นี้ (13 มิ.ย.) ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะหาข้อตกลงร่วม ก่อนการประชุมกลุ่ม G7 จะเปิดฉากขึ้น ซึ่งจะเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันที่อากาซาวะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน
การระงับการเรียกเก็บภาษี ซึ่งมีกำหนดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 ก.ค.นี้ จะมีผลบังคับใช้เฉพาะบางประเทศที่อยู่ภายใต้นโยบายภาษีตอบโต้เท่านั้น ซึ่งครอบคลุมคู่ค้าราว 60 ราย ที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก และไม่มีผลต่อภาษีขั้นพื้นฐานในอัตรา 10% ที่เรียกเก็บจากคู่ค้าทั่วโลก