ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ ในวันนี้ (25 มิ.ย.) โดยระบุว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 16-17 มิ.ย.ที่ผ่านมา กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันกรรมการยังคงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการระมัดระวังเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า กรรมการคนหนึ่งจากทั้งหมด 9 คนของ BOJ กล่าวว่า แม้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่เป็นเรื่องเหมาะสมที่ BOJ จะรักษาจุดยืนในการดำเนินนโยบายการเงินในปัจจุบันต่อไป เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลงอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
แม้รายงานสรุปความคิดเห็นฉบับล่าสุดบ่งชี้ว่า BOJ ยังไม่จำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ แต่กรรมการส่วนใหญ่มีมุมมองที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เกิดความเป็นไปได้ว่าคณะกรรมการ BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีศุลกากรเริ่มคลี่คลายลง
รายงานสรุปความคิดเห็นของกรรมการ BOJ มีขึ้นหลังจากทางการญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ การแสดงมุมมองของกรรมการ BOJ ในรายงานสรุปความคิดเห็นฉบับล่าสุดทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ อาจจะปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ ในรายงานภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาสซึ่งจะมีการเผยแพร่ในการประชุมเดือนก.ค.
ส่วนในการประชุมเมื่อวันที่ 16-17 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมประกาศว่าจะชะลอความเร็วในการลดซื้อพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่เดือนเม.ย. 2569 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะดำเนินการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติอย่างรอบคอบระมัดระวัง