รัฐบาลไต้หวันออกแถลงการณ์ระบุว่า การเจรจาการค้ารอบที่สองกับสหรัฐฯ มีความคืบหน้าอย่างสร้างสรรค์ พร้อมกับย้ำว่าการลงทุนระหว่างสองประเทศจะส่งเสริมความเจริญรุ่งเรื่องและการพัฒนาสำหรับทั้งสองฝ่าย
ในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (29 มิ.ย.) รัฐบาลไต้หวันเปิดเผยว่า คณะผู้แทนจากไต้หวันได้พบปะกับเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อหารือกันในหัวข้อต่าง ๆ ซึ่งครอบคลุมเรื่องภาษีศุลกากร อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน พร้อมเผยว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าการเจรจามีความคืบหน้าด้วยดี
การพบกันดังกล่าวนับเป็นรอบที่สอง ต่อจากการเจรจารอบแรกเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเจิ้ง ลี่จวิน รองนายกรัฐมนตรี และหยาง เจินนี ผู้แทนเจรจาการค้าของไต้หวัน ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไต้หวันในอัตรา 32% แต่ได้ระงับการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 10 วันก่อนที่มาตรการดังกล่าวจะกลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้ง
ทั้งนี้ ก่อนที่รัฐบาลทรัมป์จะประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้า บริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (TSMC) ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของใต้หวัน และเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับแอปเปิ้ล (Apple) และอินวิเดีย (Nvidia) ได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐฯ นอกจากนี้ TSMC วางแผนจะสร้างโรงงานผลิตชิปขั้นสูง 6 แห่ง โรงงานบรรจุภัณฑ์ 2 แห่ง และศูนย์วิจัยในแอริโซนา เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมูลค่า 1.65 แสนล้านดอลลาร์ที่คาดว่าจะสร้างงานหลายพันตำแหน่ง