องค์กรสนับสนุนการสร้างความมั่นคงด้านอุปทานข้าวเปิดเผยในวันนี้ (4 ก.ค.) ว่า ผู้ค้าข้าวในญี่ปุ่นจำนวนมากคาดการณ์เมื่อเดือนมิ.ย.ว่า ราคาข้าวอาจปรับตัวลงในช่วง 3 เดือนข้างหน้า หลังรัฐบาลเริ่มระบายข้าวจากคลังสำรองในปริมาณมาก
องค์กรฯ ระบุว่า ดัชนีคาดการณ์ราคาข้าวลดลง 24 จุด แตะ 35 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564 ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ดัชนีดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 ซึ่งสะท้อนว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เชื่อว่า ราคาจะลดลงมากกว่าจะปรับขึ้น
นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า แม้ผลสำรวจสะท้อนว่าราคาข้าวในร้านค้าปลีกมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่อาจยังไม่แน่นอนว่าจะปรับลดต่อเนื่องหรือไม่ เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดในญี่ปุ่นอาจกระทบผลผลิตในปีนี้
ทั้งนี้ ผลสำรวจซึ่งเก็บข้อมูลจากผู้ค้าและกลุ่มที่เกี่ยวข้อง 139 รายนับตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. เป็นเวลา 1 สัปดาห์ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 49% เชื่อว่า นโยบายภาครัฐคือสาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่อการคาดการณ์ราคา รองลงมาคือ สถานการณ์จัดซื้อข้าว (26%), ปริมาณสำรองในประเทศ (18%) และแนวโน้มผู้บริโภค (5%)
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ราคาข้าว 5 กิโลกรัมในช่วงกลางเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 3,920 เยน (ประมาณ 1,000 บาท) ต่ำกว่า 4,000 เยนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนครึ่ง ขณะที่ราคาข้าวจากคลังสำรองอยู่ที่ราว 2,000 เยนหรือราว 500 บาท
ราคาข้าวในญี่ปุ่นได้เริ่มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนท่ามกลางเงินเฟ้อที่สูงกว่าการเติบโตของค่าจ้าง โดยในเดือนพ.ค. ราคาข้าวพุ่งขึ้น 101.7% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน