ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) มีแนวโน้มรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานลดลง 39% ในไตรมาส 2/2568 โดยสาเหตุหลักมาจากความล่าช้าในการจัดส่งชิปหน่วยความจำขั้นสูงให้แก่อินวิเดีย (Nvidia) ผู้นำตลาดชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานของซัมซุงในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. จะอยู่ที่ 6.3 ล้านล้านวอน (ราว 4.62 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส
รายงานระบุว่า ผลประกอบการที่ยังซบเซาต่อเนื่องสร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับศักยภาพของซัมซุงในการไล่ตามคู่แข่งรายเล็กอย่าง เอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) และไมครอน (Micron) ซึ่งได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์หน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ในขณะที่ซัมซุงยังไม่สามารถจัดส่งชิปรุ่นใหม่อย่าง HBM3E แบบ 12 ชั้นให้กับอินวิเดียได้ในปริมาณมาก เนื่องจากขั้นตอนการรับรองยังล่าช้า อีกทั้งยอดขายในจีนของซัมซุงยังได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงที่สหรัฐฯ กำหนด
สำหรับธุรกิจสมาร์ตโฟนนั้น คาดว่ายอดขายยังแข็งแกร่ง เนื่องจากแรงซื้อสะสมล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า ธุรกิจหลักของซัมซุงทั้งชิป โทรศัพท์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์