สถาบันวิจัยไดวะประเมินว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในอัตรา 25% ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้กับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น อาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นลดลง 0.8% ภายในปี 2568
หากมาตรการดังกล่าวมีผลต่อเนื่องไปถึงปี 2572 ตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นอาจหดตัวลงรวม 1.9% โดยเฉพาะเมื่อรวมกับภาษีนำเข้าอื่นที่สหรัฐฯ บังคับใช้อยู่ก่อนแล้ว เช่น ภาษีนำเข้ารถยนต์ 27.5% เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจได้รับผลกระทบรวมถึง 1.3% ภายในปี 2568 และสูงถึง 3.7% ภายในปี 2572
โคกิ อากิโมโตะ นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันฯ ระบุว่า ภาษีที่กำหนดเฉพาะประเทศลักษณะนี้จะส่งผลเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ทั้งในแง่การผลิตเพื่อส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่อาจลดลง
ขณะที่ทาคาฮิเดะ คิอุจิ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากสถาบันวิจัยโนมูระ ประเมินว่า โดยรวมแล้ว มาตรการภาษีของทรัมป์อาจฉุด GDP ญี่ปุ่นลดลงราว 0.85% ภายในหนึ่งปี และเตือนว่า หากมีการบังคับใช้จริง ญี่ปุ่นมีโอกาสมากกว่า 50% ที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทรัมป์เรียกเก็บภาษีพื้นฐานแล้วที่ 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากเกือบทุกประเทศ ยกเว้นบางสินค้าที่กำหนดตามกลุ่มอุตสาหกรรม และเมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) ทรัมป์ได้ขู่เรียกเก็บภาษีตอบโต้สินค้าจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1% เป็น 25% จากเดิม 24% แต่ยังไม่ปิดโอกาสสำหรับการเจรจา