นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรียกร้องให้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพิ่มการค้าระหว่างกัน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ
นายอันวาร์กล่าวว่า ภาษีศุลกากร มาตรการจำกัดการส่งออก และอุปสรรคต่อการลงทุน ได้กลายเป็นเครื่องมือของคู่แข่งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
อย่างไรก็ดี นายอันวาร์ไม่ได้ระบุชื่อสหรัฐโดยตรง
"ในขณะที่เรากำลังเผชิญแรงกดดันจากภายนอก เราจำเป็นต้องเสริมสร้างรากฐานภายในให้มั่นคงยิ่งขึ้น ค้าขายระหว่างกันให้มากขึ้น ลงทุนให้มากขึ้น และเดินหน้าบูรณาการในทุกภาคส่วนด้วยความตั้งใจ" นายอันวาร์กล่าวในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรระหว่าง 25-40% ต่อ 6 ประเทศในอาเซียน แม้ว่าบางประเทศพยายามยื่นข้อเสนอประนีประนอมและเจรจาเพื่อหวังลดอัตราภาษีก็ตาม
ทั้งนี้ การประชุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์จะประกอบด้วยการหารือหลายรอบระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ เช่น สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย อินเดีย และสหภาพยุโรป
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งได้เดินทางเยือนเอเชียเป็นครั้งแรกเพื่อพยายามสร้างความมั่นใจต่อพันธมิตรและหุ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของปธน.ทรัมป์