เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ออกมาเตือนว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จะเรียกเก็บภาษี 30% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมประกาศว่า EU จะตอบโต้ด้วยมาตรการที่เหมาะสมหากจำเป็น
"การเรียกเก็บภาษีนำเข้า 30% จากสินค้าของ EU จะสร้างความปั่นป่วนให้กับห่วงโซ่อุปทานข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ ผู้บริโภค และผู้ป่วยทั้งสองฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก" ประธาน EC ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายบริหารของ EU ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (12 ก.ค.)
ถ้อยแถลงของฟอน เดอร์ เลเยน มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่านการโพสต์ภาพจดหมายถึงผู้นำสหภาพยุโรปทางโซเชียลมีเดียในวันเดียวกันว่า รัฐบาลของเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 30% จากสินค้าของ EU โดยอ้างว่าการค้าทวิภาคีไม่สมดุลมานานและขาดซึ่งหลักการต่างตอบแทน
ฟอน เดอร์ เลเยน ระบุว่า EU ยังคงมุ่งมั่นที่จะหาทางออกด้วยการเจรจา แต่ย้ำว่า EU จะดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของกลุ่ม หากการเจรจาล้มเหลว
"เรายังคงพร้อมที่จะทำงานเพื่อบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 1 ส.ค." เธอกล่าว "ในขณะเดียวกัน เราจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของ EU รวมถึงการใช้มาตรการตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อหากจำเป็น"