หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานในวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีกำหนดพบปะหารือกับสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่กรุงโตเกียวในวันศุกร์นี้ (18 ก.ค.) ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. ที่ทั้งสองประเทศจะต้องบรรลุข้อตกลงทางการค้า
การพบปะครั้งนี้จะถือเป็นการประชุมระดับสูงครั้งแรกระหว่างรัฐบาลโตเกียวกับวอชิงตัน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายถึงญี่ปุ่น แจ้งเรื่องการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นเป็น 25% โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เบสเซนต์มีกำหนดเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมงานวันชาติสหรัฐฯ ในมหกรรมโลก World Expo 2025 ที่เมืองโอซาก้าในวันที่ 19 ก.ค. โดยจะไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่การคลังกลุ่ม G20 ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันที่แอฟริกาใต้
ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า คณะผู้แทนจากสหรัฐฯ จะนำโดยเบสเซนต์ และมีลอรี ชาเวซ-เดอรีเมอร์ รัฐมนตรีแรงงาน และคริสโตเฟอร์ แลนเดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมคณะด้วย นอกจากนี้ โยมิอุริอ้างแหล่งข่าวรัฐบาลว่า เรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าผู้เจรจาด้านภาษีของญี่ปุ่น ก็คาดว่าจะได้พบกับเบสเซนต์เช่นกัน
ขณะเดียวกัน โยมิอุริมีรายงานอีกชิ้นหนึ่งว่า คณะผู้นำสหภาพยุโรป (EU) จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นเพื่อพบนายกฯ อิชิบะในช่วงปลายเดือนนี้เช่นกัน โดยประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน และประธานคณะมนตรียุโรป อันโตนิโอ คอสตา จะเดินทางไปยังกรุงโตเกียวในราววันที่ 23 ก.ค. เพื่อเปิดตัวแผน "พันธมิตรเพื่อความสามารถในการแข่งขัน" (Competitiveness Alliance)
โยมิอุริอ้างอิงร่างแถลงการณ์ว่า กรอบความร่วมมือใหม่ระหว่าง EU กับญี่ปุ่นนี้ จัดทำขึ้นเพื่อตอบโต้มาตรการทางภาษีของปธน.ทรัมป์ และการจำกัดการส่งออกแร่หายาก (rare earth) ของจีน โดยทั้งสองฝ่ายจะเน้นย้ำถึงพันธกิจในการรักษาระเบียบเศรษฐกิจที่ "มีเสถียรภาพ คาดการณ์ได้ ตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์ เสรี และเป็นธรรม" ทั้งนี้ EU เองก็กำลังเผชิญกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ในอัตรา 30%
แถลงการณ์ดังกล่าวอาจครอบคลุมถึงความร่วมมือระหว่าง EU กับญี่ปุ่นในด้านอื่น ๆ เช่น ห่วงโซ่อุปทานแร่หายากและแบตเตอรี่ การลงทุนด้านก๊าซธรรมชาติ การเจรจาด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และดาวเทียม